ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีม ยกแรก เรอัล มาดริด พบ เชลซี 12 เม.ย. 66
ปรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีม นัดแรก
คืนวันพุธที่ 12 เมษายน 2566
เรอัล มาดริด พบ เชลซี
สนาม : ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว คิกออฟ : 02.00 น. ผู้ตัดสิน: ฟร็องซัว เลเตซีเย
ผลงานพบกัน 5 นัดหลัง
12 เม.ย. 2565 เรอัล มาดริด 2-3 เชลซี (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
6 เม.ย. 2565 เชลซี 1-3 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
5 พ.ค. 2564 เชลซี 2-0 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
27 เม.ย. 2564 เรอัล มาดริด 1-1 เชลซี (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
30 ก.ค. 2559 เรอัล มาดริด 3-2 เชลซี (อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์คัพ)
เรอัล มาดริด
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
8 เม.ย. 2566 แพ้ บียาร์เรอัล 2-3 (เหย้า) ลาลีกา สเปน
5 เม.ย. คำพูดจาก ออนไลน์ สล็อต 2566 ชนะ บาร์เซโลน่า 0-4 (เยือน) โกปา เดล เรย์ นัดชิงชนะเลิศ
2 เม.ย. 2566 ชนะ เรอัล บายาโดลิด 6-0 (เหย้า) ลาลีกา สเปน
19 มี.ค. 2566 แพ้ บาร์เซโลน่า 2-1 (เยือน) ลาลีกา สเปน
15 มี.ค. 2566 ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
สภาพทีมเรอัล มาดริด
“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทีมอันดับ 2 บนตารางลาลีกา สเปน เพิ่งแพ้บียาร์เรอัลในเกมลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ทิ้งระยะห่างกับทีมจ่าฝูงอย่างบาร์เซโลน่าไปแล้ว 13 คะแนน โดยปัจจุบันเรอัล มาดริด มี 59 คะแนน แต่หนทางบนเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยังคงสดใส หลังชนะลิเวอร์พูลได้ทั้ง 2 ยกในรอบ 16 ทีม ด้วยสกอร์รวม 6-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายสำเร็จ
เรอัล มาดริด มีนักเตะที่ฟิตพร้อมเล่นเต็มร้อย โดย คาร์โล อันเชล็อตติ เผยว่าอาจจะดร็อป ลูคัส บาสเกซ และใช้ดานี่ คาร์บาฆาล ลงยืนแบ็กขวา ส่วน 3 กองกลางยังเป็นตัวหลักอย่าง ลูก้า โมดริช, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า และโทนี่ โครส พร้อมลงเล่น เกมรุก คาริม เบนเซม่า ยืนตรงกลาง โดยมี วินิซิอุส จูเนียร์ กับ เฟเดริโก้ บัลเบเดร์ ยืนขนาบข้าง
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ธิโบต์กูร์กตัวส์ (GK); ดานี่ คาบาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาบิด อลาบา; ลูก้า โมดริช, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, โทนี่ โครส; เฟเดริโก้ บัลเบเดร์, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์
เชลซี
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
8 เม.ย. 2566 แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
4 เม.ย. 2566 เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
1 เม.ย. 2566 แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
18 มี.ค. 2566 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
11 มี.ค. 2566 ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมเชลซี
“สิงห์บลูส์” เชลซี ภายใต้การคุมทีมชั่วคราวของ แฟรงค์ แลมพาร์ด คำรบ 2 มีผลงานที่ยังไม่น่าพอใจนัก หลังแพ้วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 ประเดิมนัดแรกของการคุมทีม ทำให้ทีมยังอยู่ที่อันดับ 11 บนตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มี แต่ทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" สามารถเฉือนชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในรายการนี้ไปแบบพลิกล็อก โดยมีสกอร์รวมอยู่ที่ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมได้สำเร็จ
เชลซียังคงขาดแนวรับ 2 ตัวหลักของทีมอย่าง ติอาโก้ ซิลวา และเซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า จากอาการบาดเจ็บ รวมถึงเมสัน เมาท์ กองกลางดาวรุ่งยังเดี้ยงเช่นกัน แต่ทีมแพทย์คาดว่าจะสามารถกลับมาลงสนามได้ปลายเดือนนี้ และก็องเต้ อาจได้ลงสนามในเกมนี้หลังไม่มีชื่อในเกมแพ้วูล์ฟแฮมป์ตัน เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่าแลมพาร์ดอาจพักก็องเต้เพื่อให้ฟิตเต็มร้อย สามารถลงเล่นในเกมนี้ได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วน ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยัง ไม่ได้ถูกลงทะเบียนเล่นในรายการนี้
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (GK); รีซ เจมส์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, คาลิดู คูลิบาลี่, เบน ชิลเวลล์; มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้; ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ไค ฮาแวร์ตซ์, ชูเอา เฟลิกซ์
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
– พบกันมาแล้วทั้งหมด 7 ครั้ง เรอัล มาดริด ชนะ 3 ครั้ง เชลซี ชนะ 3 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง
– เรอัล มาดริดและเชลซี พบกันในรอบน็อคเอาต์ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน โดย “ราชันชุดขาว” ชนะในรอบ 8 ทีมสุดท้ายและสามารถคว้าแชมป์ได้ในฤดูกาล 2021/22 ในขณะที่ “สิงห์บลูส์” ชนะในรอบรองชนะเลิศและคว้าแชมป์มาครองได้ในฤดูกาล 2020/21
– เชลซี เป็นทีมที่มีอัตราการแพ้ต่อเรอัล มาดริดน้อยที่สุด ที่ 14% เมื่อเทียบกับทีมที่เคยเผชิญหน้ากับ “ราชันชุดขาว” 5 นัดขึ้นไป
– เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ 9 นัดติดกัน ในการพบกับสโมสรจากอังกฤษในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รวม 3 เกมหลังสุดติดต่อกัน (ผ่านรอบ 8 ทีมสุดท้ายเกมพบเชลซี ฤดูกาล 2021/22, รอบรองชนะเลิศ เกมพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 2021/22, และรอบ 16 ทีมสุดท้าย พบลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้)
– เชลซี แพ้เพียงนัดเดียวจาก 9 นัดหลังสุดในรอบน็อคเอาต์รายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกที่ไปเยือนทีมจากสเปน (ชนะ 3 เสมอ 5) ขณะที่พวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้ว 3 นัดติดต่อกัน (ชนะ 2 เสมอ 1)
– จนถึงปัจจุบัน เชลซีไม่แพ้แชมป์เก่าในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกถึง 6 นัด (ชนะ 2 เสมอ 4) นับตั้งแต่แพ้ เอฟซี ปอร์โต้ ในฤดูกาล 2004/05 ซึ่งเป็นสถิติไร้พ่ายต่อแชมป์ฤดูกาลก่อนหน้าที่ยาวนานที่สุด